ดูดส้วม อีกหนึ่งการดูแลบ้านให้น่าอยู่
ดูดส้วม หรือ สูบส้วม นับเป็นบริการที่หลายคนอาจจะหลงลืมไป เพราะว่าซื้อบ้านเดี่ยว หรือซื้อทาวน์เฮ้าส์ / ทาวน์โฮม แล้ว กว่าจะได้ใช้บริการดูดส้วมก็อีกสักระยะหนึ่ง และบางคนที่ซื้อคอนโดจึงไม่ต้องดูดส้วม เพราะมีนิติบุคคลจัดการให้เรียบร้อย
หลายคนคงจะมีคำถามในใจว่าแล้วเมื่อไหร่คือเวลาที่เหมาะสมในการดูดส้วม เพราะถ้าปล่อยไว้นอกจากจะสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตของคนในบ้านแล้วยังส่งผลต่อสุขลักษณะที่ไม่ดีด้วย ลองมาดูรายละเอียดของการดูดส้วมกัน
ดูดส้วมคืออะไร
ดูดส้วม คือ การกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ออกมาจากร่างกายของบ้านคุณที่อยู่ในบ่อพัก ซึ่งส่วนมากแล้วจะอยู่ใกล้บริเวณห้องน้ำ รอบ ๆ ตัวบ้าน บ้านแต่ละหลังจะมีบ่อพักสิ่งปฏิกูลที่ต่างกันกันออกไป ทั้งเรื่องของขนาด และจำนวนที่มีภายในบ้าน
โดยบ่อพักจะฝังอยู่ในดิน เห็นได้เพียงฝาขนาดกลม ๆ ไม่ใหญ่เท่าจานกินข้าวเห็นจะได้ โดยส่วนมากจะเป็นแบบบ่อซึม คือ น้ำซึมออกตามร่อง และพื้นดิน เหลือเพียงกากเอาไว้ โดยน้ำบางส่วน มีโอกาสเต็มได้หลายกรณี ทั้งใช้งานมานาน หรือน้ำฝนเข้า แต่หากเป็นกรณีน้ำฝนเข้า ไม่นานก็จะแห้งไปเองได้ เพราะน้ำซึมออกไปตามพื้นดินนั่นเอง
อาการที่บ่งบอกว่าส้วมเต็มก็คือ ความผิดปกติของการใช้งานชักโครกที่อาจจะราดหรือกดแล้วลงช้า หรือไม่ลงเลย ถือเป็นสัญญาณที่ควรเรียกใช้บริการดูดส้วม
บริการดูดส้วม บริการสูบส้วม ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โทรติดต่อสอบถาม ปรึกษา สอบราคา ตกลงราคาก่อนทำงาน ดูดส้วม สูบส้วม รับล่อกท่อ สูบไขมัน เร่งด่วน โรงแรม คอนโด โรงพยาบาล โรงเรียน รับดูดส้วม โรงงาน รับสูบส้วม นิคมอุตสาหกรรม บริการดูดส้วม บ้าน อาคารพาณิชย์ ให้บริการสูบส้วม กรุงเทพฯ และ ปริมลฑลนะครับ "สาเหตุที่แท้จริงของปัญหากดชักโครกไม่ลงในกรณีใช้ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป รวมถึงเข้าใจหลักการทำงานพร้อมแนวทางแก้ไขและป้องกันที่ถูกต้อง"
เจ้าของบ้านหลายคนที่เคยอยู่อาศัยในบ้านหลังเก่าอายุเกินกว่า 20 ปีอาจคุ้นชินกับการเรียกใช้บริการสูบส้วมเมื่อเกิดปัญหาส้วมเต็ม ต่อมาเมื่อได้ย้ายมาอาศัยในบ้านหลังใหม่ซึ่งมีระบบบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป บางคนเจอปัญหากดชักโครกไม่ลง ในขณะที่บางคนใช้ห้องน้ำได้ราบรื่นดี แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดมักจะมีคำถามว่าควรเรียกใช้บริการสูบส้วมเหมือนเช่นเคยหรือไม่
อันที่จริงแล้วการสูบส้วมนั้น จะทำกับระบบบำบัดน้ำเสียแบบดั้งเดิมคือ ระบบบ่อเกรอะ-บ่อซึม โดยการทำงานของบ่อเกรอะ-บ่อซึม น้ำเสียและกากของเสียจะไหลเข้าไปยังบ่อเกรอะก่อน กากของเสียจะตกตะกอนอยู่ในบ่อเกรอะและมีจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลาย ส่วนน้ำจะไหลต่อไปยังบ่อซึมแล้วค่อยๆ ซึมออกสู่ดิน แต่หากดินในบริเวณนั้นมีน้ำใต้ดินอยู่มากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน น้ำในบ่อซึมจะซึมออกไม่ได้ ทำให้บ่อทั้งสองเต็ม จึงต้องดำเนินการสูบส้วมออกเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ
ภาพ: ปัญหาส้วมเต็มของบ่อเกรอะ-บ่อซึมเพราะมีน้ำในดินมากจนน้ำในบ่อซึมออกมาไม่ได้
ในปัจจุบันบ้านใหม่ๆ มักจะใช้ระบบถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป ซึ่งกากของเสียจะตกตะกอนไปที่ก้นถังและมีจุลินทรีย์ย่อยสลาย ส่วนน้ำที่ผ่านการบำบัดโดยจุลินทรีย์แล้วจะถูกปล่อยออกไปทางท่อระบายน้ำสาธารณะ ถังบำบัดสำเร็จรูปจึงมีโอกาสเต็มได้ยาก อย่างไรก็ตามถังบำบัดสำเร็จรูปอาจเต็มได้เช่นกัน หากถังบำบัดมีขนาดเล็กเกินไปไม่สัมพันธ์กับปริมาณการใช้งาน หรือมีจุลินทรีย์น้อยเกินไปเนื่องจากมีการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นกรดหรือด่างรุนแรงในโถสุขภัณฑ์บ่อยๆ ทำให้จุลินทรีย์ตายไปเยอะจนย่อยสลายกากไม่ทัน
ภาพ: น้ำที่ผ่านการบำบัดจากถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปจะถูกลำเลียงไปยังท่อระบายน้ำสาธารณะ
การหาสาเหตุของปัญหาที่กล่าวมา ในกรณีถังบำบัดมีขนาดไม่เหมาะสม ให้ลองคำนวณขนาดถังได้จากสูตร ขนาดถังบำบัดน้ำเสีย (ลิตร) = จำนวนผู้อยู่อาศัย x 0.8 x ปริมาณน้ำใช้ต่อคนต่อวัน (ลิตร) x 1.5 หากถังบำบัดมีขนาดเล็กเกินไปมากจากที่คำนวณได้ อาจพิจารณาเปลี่ยนถังบำบัดใหม่ ส่วนกรณีที่จุลินทรีย์มีไม่เพียงพอ ซึ่งสังเกตได้จากกลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้น การแก้ไขทำได้โดยการเติมจุลินทรีย์ลงในถังบำบัดโดยตรง หรือเติมผ่านโถสุขภัณฑ์ก็ได้ นอกจากนี้ควรลดความถี่ในการล้างห้องน้ำลง หรือเลือกใช้น้ำยาที่ไม่เป็นกรดหรือด่างรุนแรง